5 วิธีดูแลแอร์รถยนต์ให้เย็นฉ่ำ แอร์เย็นใจก็เย็นตาม

Free photos of Car

การขับรถทีไรหนีไม่พ้นอาการหัวร้อนแน่นอน นอกจากจะเจอผู้ร่วมทางที่ขับรถแย่ ๆ จนทำให้หัวร้อนได้ง่ายแล้ว ยิ่งถ้าแอร์รถยนต์ไม่เย็นอีก บอกเลยว่าความหัวร้อนทวีคูณแน่นอน มาดู 6 วิธีดูแลแอร์รถยนต์ให้เย็นฉ่ำ แอร์เย็นใจก็เย็นตาม มาให้คุณได้ทำตามกันแบบง่าย ๆ หมดปัญหาแอร์ไม่เย็นขณะขับรถอีกต่อไป

ดูแลแอร์รถยนต์ด้วยการล้างแอร์

แอร์รถยนต์ก็เหมือนแอร์ติดบ้าน ที่จะต้องใส่ใจดูแลเรื่องของการทำความสะอาดให้ดี แต่ไม่ต้องถี่เท่ากับล้างแอร์บ้าน การล้างแอร์รถยนต์ควรล้างแอร์ทุก ๆ  2,000 กิโลเมตร หรือทุก 1 ปี เพื่อที่จะได้ไม่เป็นที่สะสมของฝุ่น โดยควรทำพร้อมกับการเปลี่ยนไส้กรองแอร์ เพื่อที่ช่องลมจะได้ส่งลมเย็น ไม่มีฝุ่นออกมา ให้อากาศที่สดชื่นแก่ห้องโดยสาร หรือถ้าเกิดแอร์ของคุณไม่เย็น ก็สามารถไปทำการล้างแอร์เพื่อแก้ไขในเบื้องต้นได้ ซึ่งการล้างแอร์ตามกำหนดในแต่ละปี เป็นวิธีการดูแลแอร์รถยนต์ที่ง่ายที่สุด เพราะจะทำให้แอร์รถยนต์เกิดปัญหาน้อย

เปลี่ยนไส้กรองแอร์เมื่อถึงเวลา

เช่นเดียวกับการล้างแอร์ การเปลี่ยนไส้กรองควรเปลี่ยนในระยะเวลา 1 ปี หรือทุก 2,000 กิโลเมตร และควรเปลี่ยนไส้กรองควบคู่กับการล้างแอร์ไปเลย หากไม่ได้เปลี่ยนไส้กรองจะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนัก มีฝุ่นสะสมเป็นจำนวนมาก ทำให้ลมที่ออกมานั้นไม่มีความเย็น แถมยังเป็นลมที่มีสิ่งสกปรกปะปนอีกด้วย ไม่ดีต่อสุขภาพของคนที่อยู่ในห้องโดยสาร เพราะฉะนั้นอย่าลืมดูแลแอร์รถยนต์ ด้วยการเปลี่ยนไส้กรองเมื่อครบกำหนด

ไม่เปิดกระจกขณะขับรถเป็นประจำ

การเปิดกระจกขณะขับรถ จะเป็นการรับฝุ่น หรือมลภาวะภายนอกเข้ามาข้างในตัวรถ ทำให้อากาศที่หมุนเวียนภายในรถเต็มไปด้วยฝุ่นละออง ทำให้ไส้กรองอากาศของแอร์รถยนต์ต้องกรองฝุ่นเหล่านั้นด้วย หากต้องการเปิดกระจกขณะขับรถ แนะนำให้ทำการปิดการใช้งานแอร์รถ และปิดช่องแอร์รถ เพื่อเป็นการดูแลแอร์รถยนต์ไม่ให้ฝุ่นเข้าไปนั่นเอง และแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเปิดกระจกรถยนต์ในบริเวณที่มีฝุ่นหนาแน่น

ทำความสะอาดรถยนต์เป็นประจำ

การทำความสะอาดรถยนต์ มีส่วนสำคัญในการดูแลแอร์รถยนต์ ให้เย็นสบายได้ด้วย เพราะการทำความสะอาดภายในห้องโดยสาร จะช่วยลดการสะสมของฝุ่นที่หมุนเวียนอยู่ในรถ และลดการสะสมของฝุ่นที่จะเข้าไปอุดตันในไส้กรองแอร์ ช่วยให้แอร์รถยนต์ทำความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลมที่ปล่อยออกมา เป็นลมที่มีฝุ่นสะสมน้อย โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ แนะนำให้ดูดฝุ่นรถยนต์เป็นประจำสม่ำเสมอ

ใช้ปุ่ม A/C ให้ถูกต้อง

คำว่า A/C ย่อมาจาก Air Conditioning เป็นปุ่มที่เอาไว้ทำหน้าที่ควบคุมการเปิด-ปิด คอมเพรสเซอร์ของแอร์รถยนต์ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเอาไว้ “เปิด-ปิดการทำความเย็น” โดยส่วนมากเรามักจะเปิดปุ่ม A/C ค้างไว้ตลอด ซึ่งวิธีการใช้งานที่ถูกต้องคือ

  • เมื่อสตาร์ทรถแล้วให้อย่าพึ่งกดปุ่ม A/C ในทันที ให้เปิดพัดลมเครื่องปรับอากาศก่อน ประมาณ 1 นาที เพื่อไล่ลมร้อนออกไป จากนั้นจึงจะค่อยกดเปิดสวิตช์ A/C เพื่อปล่อยความเย็นออกมา
  • ก่อนจอดรถควรปิดสวิตช์ A/C ทุกครั้งก่อนถึงที่หมายประมาณ 2-3 นาที แล้วจึงค่อยปรับความแรงของพัดลม เพื่อไล่ความชื้นที่เกาะอยู่ในช่องอากาศ ซึ่งเป็นวิธีที่จะช่วยให้ไม่มีกลิ่นอับในห้องโดยสาร

การดูแลแอร์รถยนต์ด้วยวิธีนี้ จะช่วยถนอมการทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์ ให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยยืดอายุการใช้งานแอร์รถยนต์ได้เป็นอย่างดี

เมื่อได้ทำตามวิธีการดูแลแอร์รถยนต์ตามในข้างต้นแล้ว จะช่วยให้แอร์รถยนต์ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่เสีย ไม่พังง่าย เพราะถ้าแอร์รถพังทีหงุดหงิดแน่นอน และขอแนะนำอีกหนึ่งเพื่อนร่วมทาง ที่จะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ เลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ Rabbit Care ช่วยให้คุณยิ้มได้เมื่อภัยมา หัวไม่ร้อนแน่นอน ช่วยคุ้มครองความเสียหายจากอุบัติเหตุได้ครอบคลุมทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นรถชนรถ การชนแบบไม่มีคู่กรณี รวมไปถึง รถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ ภัยธรรมชาติอื่น ๆ หรือแม้แต่อุบัติเหตุที่ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิดก็ตาม ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองให้หมด เข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครได้ที่ https://rabbitcare.com/car-insurance/type1